วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

การตั้งค่าเก็บข้อมูลจาก google form และการนำไปใช้

เมื่อสร้าง Google Form เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลที่ได้จะอยู่ที่ไหน จะเอาไปใช้ได้ยังไง ลองมาดูวิธีการกัน

การดูผล การจัดเก็บข้อมูล

1.    สำหรับ Google Form แบบใหม่ เมื่อสร้าง Form เสร็จแล้ว ส่งแบบสอบถามไปให้ผู้ตอบแบบสอบถามแล้ว เมื่อมีการตอบกลับสามารถดูผลจะปรากฏแถบการตอบกลับผู้สร้างแบบสอบถามสามารถคลิกเพื่อดูการตอบกลับในรูปแบบของ กราฟได้ทันที 


2.หรือสามารถดูผล อยู่ในรูปแบบ spreadsheet โดยกดปุ่ม ดูคำตอบในชีต


3. จะปรากฏหน้าต่าง อยู่ในรูปแบบ spreadsheet ให้ผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานต่อด้วยการนำออกข้อมูล (Export) ในรูปแบบต่างๆ


 

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

การตั้งค่าการแชร์ข้อมูลใน Google


การตั้งค่าสิทธิ์ในการแชร์ของมูลของ Google 



การตั้งค่าสิทธิ์ในการแชร์มีทั้งหมด 5 แบบด้วยกันคือ     

·  เปิด - สาธารณะบนเว็บ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทุกคนสามารถค้นพบและเข้าถึง ไม่ จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้
·  เปิด - ทุกคนที่มีลิงค์ จะสามารถเข้าถึงได้โดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้
·  เปิด -  ชื่อหน่วยงาน ทุกคนใน ชื่อหน่วยงาน   สามารถค้นหาและเข้าถึงได้
·  เปิด – ทุกคนใน  ชื่อหน่วยงาน ที่มีลิงค์ ทุกคนใน  ชื่อหน่วยงาน  ที่มีลิงค์ สามารถเข้าถึงได้
·  ปิด – ผู้ใช้ที่ระบุ คนที่ได้รับอนุญาตโดยการระบุอีเมลเท่านั้นและต้องลงชื่อเข้าใช้

ตีกรอบข้อความใน word

การกรอบข้อความสามารถ ทำได้หลากหลายแบบ
บางคนใช้วิธีการทำเป็นตาราง
บางคนใช้วิธีการนำ Shape มาเติมข้อความลงไป
วันนี้พึ่งใช้การตีกรอบข้อความด้วยการใส่เส้นขอบย่อหน้า ซึ่งคิดว่ามีไม่กี่คนที่ใช้วิธีการนี้

1. เลือกแท๊บ เค้าโครงหน้ากระดาษ  >> เส้นขอบย่อหน้า


2. จะปรากฏหน้าต่างเส้นขอบและแรเงา >> เลือกแท๊บเส้นขอบ >> กำหนดลักษณะ สี รูปแบบ >> เลือกว่าจะนำไปใช้กับย่อหน้าหรือข้อความได้เลย 


     2.1 นำไปใช้กับย่อหน้า 

     2.2 นำไปใช้กับข้อความ 




การสร้าง Google Form (แบบใหม่) ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน

รู้จักกับ Google Form
Google Form คือหนึ่งในชุดเครื่องมือของ Google App for Education ใช้ในการสร้างแบบสอบถามออนไลน์ หรือรวบรวมข้อมูลออนไลน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ โดยผู้ใช้งานสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำแบบฟอร์มสำหรับการเก็บข้อมูล ฟอร์มสำรวจความพึงพอใจ ฟอร์มการลงทะเบียน ฟอร์มสำหรับการโหวต เป็นต้น

การสร้าง Google ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 เข้าใช้งาน Google Form
1. เมื่อเข้าใช้งานผ่าน Email  >> เลือกปุ่ม App Google (เก้าจุดมุมบนขวา)  >> เลือกเครื่องมือ Google Form 


หมายเหตุ : หากหาไม่เจอ ให้เลือกเมนู >> อื่นๆ  >> บริการอื่นๆ จาก Google >> Form

2. เมื่อเข้าไปยังหน้า Form ให้กดปุ่มเครื่องหมายบวกสีแดงที่มุมขวาล่างของหน้าจอ


3. Google form ก็จะทำการสร้าง Form อัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้ปรับแต่งต่อไป


ขั้นตอนที่ 2 การสร้างฟอร์ม
1. เลือกชนิดของคำถามที่ต้องการ โดยชนิดของคำถามจะแบ่งเป็น 9 ประเภท ดังต่อไปนี้ 
1) คำตอบสั้นๆ (Text) ใช้สำหรับกรอกข้อความที่เป็นตัวอักษร ตัวเลข ที่มีความยาวไม่มาก เช่น ชื่อ, นามสกุล, เบอร์โทร
2) ย่อหน้า (Paragraph Text ) คล้ายกับ คำตอบสั้นๆ แต่จะใช้เก็บข้อมูลที่ยาวขึ้น สามารถเก็บแบบหลายๆ บรรทัด เช่น ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ
3) หลายตัวเลือก (Multiple Choice) ใช้ในกรณีที่เราต้องการเก็บข้อมูล แบบสร้างตัวเลือกให้ผู้กรอกเลือกตอบ เช่น เพศ, วุฒิการศึกษา, เงินเดือน เป็นต้น หรือ อาจใช้สร้างเป็นข้อสอบก็ได้ โดย Multiple choice จะเลือกตอบได้เพียงอย่างเดียว  (สามารถประยุกต์ใช้เป็นข้อสอบก่อนเรียน-หลังเรียนได้)
4) ช่องทำเครื่องหมาย (Check boxes) ตัวเลือกนี้จะคล้าย Multiple Choice แต่จะสามารถเลือกได้มากกว่า 1 ตัวเลือก เหมาะสำหรับคำถาม หรือ ข้อมูลที่สามารถตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ และเรายังสามารถกำหนดเงื่อนไขเพิ่มได้อีกว่า จะให้ตอบ อย่างน้อยกี่ตัวเลือกหรือ ตอบได้ไม่เกินกี่ตัวเลือก ก็ได้
5) เลื่อนลง (Choose from a list) ตัวนี้ก็จะคล้ายๆ Multiple Choice  เลือกได้เพียง 1 ข้อแต่จะแสดงผลในแบบ Dropdown list เหมาะสำหรับ คำถามที่มีตัวเลือกเยอะมาก (ถ้าใช้ Multiple Choice แล้ว หน้าฟอร์มอาจไม่สวยงามหรือกรอกยาก) การใช้งานจะเหมือนกัน แต่ต่างกันตอนแสดงผล
6) สเกลเชิงเส้น (Scale) ตัวเลือกนี้ จะเก็บข้อมูลเป็นตัวเลข (ค่าของ Scale เช่น 1 - 10 ถ้าผู้ใช้เลือก 9 ค่าที่เก็บก็จะเป็น 9) เหมาะสำหรับใช้กับแบบสอบถามที่ต้องมี ระดับความพึงพอใจที่ไม่ เท่ากัน เช่น หรืออาจใช้ในกลุ่มแบบสอบถาม แบบประเมิน ที่มีคำถามในเรื่องระดับความพึงพอใจไม่เยอะ ก็จะ สามารถใช้ตัวเลือกนี้ได้ แต่จะไม่เหมาะหากต้องใช้ตัวเลือกนี้ในกรณีที่เรามีหัวข้อในตอบเยอะมาก เพราะมันจะดูไม่สวยงาม
7) ตารางตัวเลือกหลายข้อ (Grid) ตัวเลือกนี้ สามารถกำหนดค่าใน Option ของ Grid คือ ในช่อง Row (ป้ายกำกับ แถวแนวนอน) จะใช้เป็นคำสั่งย่อย ของแบบประเมินแต่ละข้อ ในแบบประเมิน (หากไม่มีข้อย่อย ตรงนี้ก็จะกลายเป็นข้อหลักครับ) ส่วน Column (ป้ายกำกับ คอลัมน์) จะเป็นค่าที่เราจะให้ผู้ใช้ฟอร์มกรอก โดยอาจเก็บเป็นข้อความ เช่น มาก,ปานกลาง และ น้อย หรือ ตัวเลข 1,2,3 ก็ได้ ตามค่าที่ส่งเข้ามา 
8)  วันที่ (Date) ใช้สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่  เช่น  วันเกิด
9)  เวลา (Time) ใช้สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา  เช่น  เวลาเข้างาน 

2. เมื่อเลือกชนิดของข้อมูลที่ต้องการทำแบบสอบถามแล้ว สามารถกำหนดค่า ปุ่มที่มุมขวาของคำถาม โดยสามารถ Copy, Delete, กำหนดให้เป็นคำถามที่ต้องตอบ และกำหนดระบบตรวจสอบการกรอกข้อมูลที่ผู้ใช้งานกรอก เช่น เราให้ระบุรหัสนักศึกษา จะต้องกรอกเฉพาะตัวเลขเท่านั้นก็สามารถระบุได้ 



ขั้นตอนที่ 3 การออกแบบ Google Form                                          
1. เลือกที่ปุ่มชุดสี  เพื่อทำการออกแบบโทนสีหรือพื้นหลัง หากต้องการออกแบบพื้นหลังให้เลือกที่ปุ่มรูปภาพ


2. จากนั้นให้ทำการเลือกธีมที่ต้องการ


3. และเลือกดู Form ที่ออกแบบโดยกดที่ปุ่มแสดงตัวอย่าง (Preview)





วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

คีย์ลัด การแสดงผล desktop อย่างรวดเร็ว


ปกติจะเป็นคนที่คอยหา Tip เสนอให้กับน้องในห้องเพื่อจัดทำเผยแพร่ในหน่วยงาน หาไปเรื่อยๆ ก็เจอคีย์ลัดที่น่าสนใจ
- เป็นแนวความคิดที่ชั่วร้าย ใช้ในการหลบซ่อนหัวหน้าจากการเล่นเกมส์ (อย่าบอกหัวหน้าเค้านะ T^T เอาแนวคิดที่ดีไปใช้ละกัน)
- เป็นแนวคิดในทางที่ดี คือพับหน้าจออย่างรวดเร็วเพื่อทำงานอื่นๆ  (^_^)


Window + M - ย่อหน้าจอของทุกโปรแกรม ให้เหลือแต่ Desktop

Window + D - โชว์หน้าจอ Desktop

สองคีย์นี้ ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน